วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2555

ลดบริโภคเค็ม ช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคร้าย


รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเสนอแนวทางใหม่เกี่ยวกับการควบคุมอาหารให้กับชาวอเมริกันทุกคน

ปัจจุบันนี้ มีจำนวนเด็กหนึ่งในสามคนในประเทศอเมริกามีน้ำหนักตัวเกินขนาดและเป็นโรคอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคร้ายอื่นๆตามมามากมาย จึงเริ่มมีการรณรงค์และเห็นความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น ทางรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกาได้เสนอแนวทางใหม่ในการควบคุมการรับประทานอาหารอาหาร นั่นก็คือการลดปริมาณเกลือที่บริโภคในแต่ละวันให้เหลือแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น

การลดปริมาณเกลือและความเค็มของอาหารที่บริโภคเข้าไป จะต้องลดลงให้เหลืออย่างน้อย 2,300 มิลลิกรัมหรือ 1 ช้อนชาต่อวันเท่านั้น และสำหรับผู้ที่มีอายุ 51 ปีขึ้นไปนั้น ควรจะลดลงเพิ่มอีก 1,500 มิลลิกรัม ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงโรคความดันเลือดสูงซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด โรคไต โรคอัมพาต โรคหลอดเลือหัวใจตีบ รวมไปถึงโรคหัวใจที่นับว่าเป็นโรคที่มีอัตราการตายที่สูง ซึ่งถ้าในวันรุ่นมีการบริโภคเกลือหรือโซเดียมน้อยลง 3,000 มิลลิกรัม/วัน จะทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคความดันเลือดสูงตอนเป็นผู้ใหญ่ลดลงถึง 30-43%

เกลือหรือโซเดียมส่วนใหญ่จะได้รับจากพวกอาหารสำเร็จรูป เช่น ซอสมะเขือเทศ เครื่องปรุงรส ซุป/อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง ขนมขบเคี้ยวเช่นมันฝรั่งทอดฯลฯ ซึ่งทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเองได้เรียกร้องให้อุตสาหกรรมอาหารลดปริมาณโซเดียมที่เป็นส่วนประกอบในอาหารแต่ละชนิดที่ผลิตออกมาด้วย นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ถึงการบริโภคอาหารพวกผัก ผลไม้ ธัญพืช ซึ่งอาหารเหล่านี้มีคุณค่าทางโภชนาการและมีปริมาณแคลอรี่ที่ต่ำ อีกทั้งยังแนะนำการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อว่าควรมีผักหรือผลไม้อย่างน้อยครึ่งจาน และดื่มน้ำมากๆ

วิธีง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกิน ไม่กินเค็มเกินไป หลีกเลี่ยงอาหารฟาสฟู๊ดหรืออาหารสำเร็จรูป กินน้ำเยอะๆ ก็สามารถยืดอายุของไต อีกทั้งยังลดความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจได้อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น