เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 9 นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ให้สัมภาษณ์ว่า การแก้ปัญหาการเข้าถึงยาถือเป็นหน้าที่หนึ่งของอภ. โดยปัจจุบันพบว่า ยากลุ่มแก้ปัญหาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นกลุ่มยาที่มีราคาแพงทำให้ประชาชนเข้าถึงได้ยาก อภ.จึงได้มีการผลิตและขออนุญาตขึ้นทะเบียนยากลุ่ม ซิลเดนาฟิล (Sildenafil) โดยขณะนี้ผ่านการขึ้นทะเบียนของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) แล้ว
นพ.วิทิตกล่าวอีกว่า จะแถลงข่าวและเตรียมวางจำหน่ายประมาณวันที่ 15 ต.ค. นี้ โดยเชื่อว่าการผลิตยากลุ่มนี้ จะช่วยแก้ปัญหาการระบาดของยาปลอม และทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาได้ เนื่องจากปัจจุบันสังคมไทยมีจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้นทำให้ยากลุ่มนี้เป็นที่ต้องการ ซึ่งยาจะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ แต่พบว่าปัจจุบันยามีราคาแพงมากทำให้ผู้ป่วยหันไปพึ่งยาปลอม และไม่ได้เข้าสู่ระบบการรักษา
"อภ.ได้วางแผนการจำหน่ายยาดังกล่าว ในขนาด 50 มิลลิกรัม และ 100 มิลลิกรัม โดยขนาด 50 มิลลิกรัมตกราคาเม็ดละประมาณ 25 บาท เมื่อเทียบกับยากลุ่มเดียวกันที่วางจำหน่ายในท้องตลาดส่วนใหญ่ตกเม็ดละ 200 บาท ซึ่งเชื่อว่าการผลิตยากลุ่มนี้จะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้" นพ.วิทิต กล่าว
สำหรับกลุ่ม ซิลเดนาฟิล เป็นยารักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยยากลุ่มนี้มีชื่อทางการค้า อาทิ ไวอากร้า (Viagra), อีลอนซ่า (Elonza) และโทนาฟิล(Tonafil) ซึ่งทั้งหมดจัดเป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องมีใบสั่งแพทย์และจำกัดให้จำหน่ายเฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น
วันเดียวกัน หมอห้าหมีน หวังสบู หมอพื้นบ้านจังหวัดกระบี่ กล่าว ในการเสวนาการนวดไทย : ความงดงามบนความหลากหลาย เรื่อง "การนวดฟื้นฟูอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและอาการต่อมลูกหมากโตว่า ปัญหาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการใช้อวัยวะเพศที่ไม่ถูกวิธีหรือใช้ไม่เป็น อาทิ พฤติกรรมการอั้นการหลั่งน้ำอสุจิระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อให้การมีเพศสัมพันธ์ยาวนานขึ้น ซึ่งการทำพฤติกรรมดังกล่าวบ่อยๆ นั้น จะทำให้เกิดความเคยชิน และนำไปสู่การหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ ในขณะที่บางรายก็ไม่มีการนำออกมาใช้เลย ก็เป็นสาเหตุให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้เช่นกัน
หมอห้าหมีน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ลักษณะท่าทางของการสวมชุดชั้นในของผู้ชายอาจมีผลต่ออาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย เช่น หากสวมโดยปลายอวัยวะเพศกดงอลง จะทำให้ระบบประสาทเกิดการกดทับ และทำงานช้าลง เป็นผลให้ระบบประสาทสมองที่สั่งการกับปลายประสาททำงานไม่สัมพันธ์กัน หรือการเก็บปลายอวัยวะเพศขึ้นไปด้านบน ก็อาจทำให้เกิดตุ่มไข่ปลาขึ้นได้ รวมไปถึงการเก็บอวัยวะเพศด้วยการพาดไปทางด้านซ้าย ก็จะกดทับเส้นประสาททางข้างซ้ายเช่นกัน วิธีที่ถูกต้องคือ ให้อยู่ในลักษณะที่ไม่กดทับ และทำความสะอาดอย่างถูกต้อง
นายวิโรจน์ มณฑา มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา กล่าวว่า ปัญหาระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ที่นำไปสู่การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงคือ การไปถึงจุดสุดยอดไม่พร้อมกัน ซึ่งจะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดอารมณ์ค้าง หรือเรียกว่า "ลมมหาสนุก" ซึ่งหากเกิดอาการดังกล่าวบ่อยๆ จะทำให้ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์และนำไปสู่การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ซึ่งวิธีในการป้องกันนั้นทั้งสองฝ่ายจะต้องเตรียมร่างกายให้มีความพร้อม มีสุขภาพที่ดี พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เลี่ยงของแสลงต่อร่างกาย ออกกำลังกายแบบพอเหมาะ และเมื่อเวลามีเพศสัมพันธ์ต้องหาบรรยากาศที่ดี ช่วยให้อารมณ์ดีพร้อมทั้งคู่ ก็จะสามารถป้องกันการเกิดลมมหาสนุกได้
"การนวดที่อวัยวะเพศเพื่อรักษาการเสื่อสมรรถภาพทางเพศนั้น ขอยืนยันว่าเป็นการหลอกลวง เพราะหมอนวดจริงๆ จะไม่สัมผัสที่อวัยวะเพศชายหรือหญิงเลย การทำแบบนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ครูอาจารย์ไม่เคยสอนแบบนั้น แต่สอนว่าสุขภาพจะแข็งแรงต้องป้องกัน ฉะนั้นหากสามารถป้องกันรักษาลมมหาสนุกได้ก็จะช่วยให้มีสุนทรียภาพที่ดีขึ้น" นายวิโรจน์กล่าว
ด้านนายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ พร้อมมอบรางวัลหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ พ.ศ.2555 ให้แก่ พ่อหมอสง่า พันธุ์สายศรี หมอพื้นบ้านเหยียบเหล็กแดง แห่งตำบลพะยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นวิธีการช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ว่า ประเทศ ไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community-AEC) ในปี 2558 ซึ่งจะเป็นโอกาสในการพัฒนาสินค้าประเภทสมุนไพรของไทย ที่ผ่านมา ตลาดสินค้าสมุนไพร ยาแผนดั้งเดิม อาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพจากสมุนไพร ภาพรวมในประเทศ ในปี 2554 มีมูลค่าถึง 2,000 ล้านบาท คาดว่า ในปี 2558 มูลค่าอุตสาหกรรมแปรรูปสมุนไพรจะสูงถึง 30,000 ล้านบาท รัฐบาลมีนโยบายให้ความสำคัญในการส่งเสริม คุ้มครอง อนุรักษ์ภูมิปัญญาไทย และส่งเสริมการใช้การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในระบบบริการสาธารณสุขทุกระดับ
นายวิทยากล่าวต่อว่า ในปี 2556 ได้วางแผนพัฒนาด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร 4 เรื่อง ได้แก่ 1.เร่งผลิตแพทย์แผนไทยและส่งไปประจำในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต. ให้ได้ 400 แห่ง 2.พัฒนาโรงพยาบาลตรวจรักษาดูแลด้วยการแพทย์แผนไทยต้นแบบ จะเปิดให้บริการ 14 แห่ง ซึ่งจะมีบริการนวด เพื่อการรักษาและนวดเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ มั่นใจว่าจะสามารถลดการใช้ยาแก้ปวด และยาคลายเครียดได้เป็นอันมาก 3.จัดทำราคากลางอ้างอิงยาแผนไทยในสถานบริการสาธารณสุข เพื่อให้สถานบริการจัดซื้อในราคาที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาราคากลางมีเฉพาะยาแผนปัจจุบัน และ4.เพิ่มรายการยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติให้ได้ 100 รายการ ซึ่งปัจจุบันมีแล้ว 71 รายการ ซึ่งจะทำให้มียาสมุนไพรที่มีคุณภาพและความปลอดภัย รักษาอาการเจ็บป่วยมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น