วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2555

หลวงพ่อพูนพระเกจิอาจารย์มงคลนามกรุงเก่า


"รวย เพิ่ม พูน" ๓ คำนี้ เป็นที่คุ้นหูอย่างยิ่ง เพราะเป็นนามมงคลของพระเกจิอาจารย์ดังแห่งเมืองกรุงเก่า จ.พระนครศรีอยุธยา ๓ รูป คือ ๑.พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ” หรือ หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก เจ้าอาวาสวัดตะโก ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี ๒.พระครูประโชติธรรมวิจิตร หรือ หลวงพ่อเพิ่ม อตฺตทีโป อ.บางไทร และ ๓.พระครูสุวรรณศีลาธิคุณ หรือ หลวงพ่อพูน ฐิตสีโล เจ้าอาวาสวัดบ้านแพน ต.สามกอ อ.เสนา
    
                 ทั้งนี้ มีคำกล่าวในวงการสร้างวัตถุมงคลว่า งานพิธีปลุกเสกพระเครื่องในยุคนี้แทบจะขาดท่านทั้งสามไม่ได้เลย เช่น เดียวกับวัตถุมงคลของทั้ง ๓ รูป ที่มีพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน โดยเฉพาะหลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน ฎีกานิมนต์ปลุกเสก วัตถุมงคลยาวเหยียดถึงสิ้นปี บางวันมี ๒-๓ งาน
    
                 ประวัติของหลวงพ่อพูนที่น่าสนใจ คือ หลังจากที่ท่านนบวชได้เพียง ๔ พรรษา คือ ใน พ.ศ. ๒๔๙๙ ก็ได้รับการมอบหมายจากหลวงพ่อวาสน์พระอุปัชฌาย์ของท่าน และเเจ้าอาวาสวัดบ้านแพนในขณะนั้น ให้หลวงพ่อเป็นพระกรรมวาจาจารย์ คือ เป็นพระคู่สวดประจำวัดบ้านแพน นอกจากนี้ยังมีหน้าที่สำคัญๆ ที่ได้รับมอบหมายจากหลวงพ่อวาสน์ เจ้าอาวาสวัดบ้านแพน คือ พ.ศ. ๒๔๙๙  ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบ้านแพน พ.ศ.๒๕๑๓ ได้รับการมอบหมายให้เป็นรองเจ้าอาวาสวัดบ้านแพน วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๗ เนื่องจากหลวงพ่อ พระครูปริยัติคุณูปการณ์ (วาสน์) ท่านชราภาพมาก ท่านมีอายุถึง ๘๕  ปี ท่านจึงได้รับการยกฐานะเป็นเจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลกิตติมศักดิ์ หลวงพ่อพูนท่านจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านแพน ต่อจากหลวงพ่อวาสน์ มาจนถึงปัจจุบันนี้
     
                 ในด้านพระเวทย์วิทยาคมหลวงพ่อพูนท่านได้สนใจและได้ศึกษาในเรื่องพุทธเวทย์ มหามนต์ซึ่งเป็นศาสตร์แห่งพุทธมาตั้งแต่อายุ ๑๔ ปี โดยในเวลานั้นได้ติดตามหลวงปู่คำปัน พระธุดงค์ที่มาจากภาคเหนือขึ้นไปอาศัยอยู่ภาคเหนือเป็นเวลา ๑ ปี จึงได้กลับมาบ้านเกิดพร้อมทั้งตำราการดูดวงที่ถือได้ว่าแม่นยำอย่างหาใคร เปรียบได้ยาก ไม่เพียงแค่นั้นหลวงพ่อพูนท่านยังได้ฝึกเรียนกรรมฐานกับอาจารย์พริ้งฆราวาส จอมขมังเวทย์ในย่านบ้านแพน และได้รับการถ่ายทอดวิชาการทำน้ำมนต์มาจากอาจารย์พริ้งจนจบหลักสูตรวิชา จึงเป็นเหตุให้น้ำพระพุทธมนต์ที่หลวงพ่อพูนทำขึ้นมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก สามารถใช้ขับไล่ภูตผี ปีศาจ เสนียดจัญไรได้อย่างชะงัด
    
                 นอกจากอาจารย์พริ้งแล้วหลวงพ่อพูนยังได้ร่ำเรียนวิชามาจากอาจารย์ลพ เกตุบุตร ซึ่งเป็นพี่ชายของหลวงพ่อวาสน์พระอุปัชฌาย์ของท่าน และเป็นศิษย์เอกของอาจารย์จาบแห่งตำบลสำเภาล่ม จ.พระนครศรีอยุธยา โดยหลวงพ่อพูนได้รับการถ่ายทอดวิชาการลงยันต์ตรีนิสิงเห ซึ่งเป็นยันต์ที่หลวงพ่อมักใช้จารลงในแผ่นยันต์หรือแหวนอยู่เสมอๆ 
    
                 สำหรับครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์นั้น หลวงพ่อพูนได้ศึกษาวิชามาจากหลวงพ่อมี วัดมารวิชัย  ที่เป็นพระกรรมวาจาจารย์ของท่าน จนมีความเชี่ยวชาญด้านพระเวทย์เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายวิชาพระคาถาชินบัญชรอันลือลั่นของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่แม้ว่าหลวงพ่อมีจะมีความเชี่ยวชาญในพระคาถานี้อย่างหาผู้ใดเทียบได้ยาก เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ยังชมหลวงพ่อพูนว่า "มีความเชี่ยวชาญพระคาถาชินบัญชรมากกว่าท่าน"
    
                 นอกจากนี้แล้วทางวัดยังมีโครงการสร้างอาคารศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ เนื่องจากอาคารศูนย์เด็กเล็กหลังเดิมน้ำท่วมทุกปี ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๘ โดยได้ย้ายมาเรียนที่โรงเรียปริยัติธรรมของวัดบ้านแพน และเมื่อน้ำท่วม พ.ศ.๒๕๕๔ อาคารหลังดังกล่าวน้ำท่วมเกือบถึงชั้น ๒ ทางวัดจึงสร้างอาคารหลังใหม่เป็นไปตามแบบของศูนย์เด็กขนาดใหญ่ ตามแบบของกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข เป็นอาคารชั้นเดียวใช้เงินก่อสร้างประมาณ ๘ ล้านบาทเพื่อให้การสร้างอาคารแล้วเสร็จทางวัดจึงจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่น เลื่อสมณศักดิ์ ประกอบด้วย รูปเหมือนขนาดบูชาขนาด ๗ นิ้ว รมดำ ใต้ฐานบรรจุยันต์ตรีนิสิงเห พระสมเด็จ งาช้างแกะ หลังรูปเหมือน และเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น