ในทางตรงกันข้าม ขณะใดที่จิตเป็นกุศล เป็นบุญ ขณะนั้นจิตย่อมปราศจาก
บันทึกความทรงจำ การเดินทางท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว คอมพิวเตอร์ การทำ SEO แหล่งความรู้ทุกแขนงถูกเก็บรวบรวมไว้ที่นี่ให้ทุกคนได้ศึกษา ได้เก็บเกี่ยวความรู้จากความทรงจำอันดีงาม ให้เช่าวัตถุมงคล พระเครื่อง พระบูชา รับตรงจากวัด แจกรูปฟรี
วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ทำอย่างไรจึงจะไม่ฟุ้งซ่าน
ความจริงเรื่องของความฟุ้งซ่านเป็นเรื่องธรรมดาของคนมีกิเลส
ขณะกิเลส
หรือ บาปอกุศลเกิดขึ้นครั้งใด
ขณะนั้นก็ถือว่าฟุ้งซ่านแล้ว เพราะอุทธัจจะอันเป็นสภาพของความฟุ้งซ่านไม่สงบเกิดร่วมด้วยทุกครั้ง
ในทางตรงกันข้าม ขณะใดที่จิตเป็นกุศล เป็นบุญ ขณะนั้นจิตย่อมปราศจาก ความ ฟุ้ง ซ่าน เพราะฉะนั้นเมื่อไม่ต้องการให้จิตฟุ้งซ่าน
เราก็ต้องทำกุศลอยู่เสมอไม่ว่าจะให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ช่วยเหลือกิจการงานที่ชอบ
การอ่อนน้อมถ่อมตน การให้ส่วนบุญที่ทำแล้วแก่ผู้อื่น การอนุโมทนาบุญที่ผู้อื่นทำแล้ว การฟังธรรม การแสดงธรรม
แม้การทำความเห็นให้ถูกต้องตรงก็เป็นกุศลทั้งนั้น
การมีเมตตากรุณา เอื้อเอ็นดูแก่ผู้อื่นก็เป็นกุศล การอ่านหนังสือธรรมะก็เป็นกุศล
กุศลนั้นมีมากมาย เมื่อเจริญกุศลอยู่ จิตก็ย่อมสงบจากกิเลสไม่ฟุ้งซ่าน
แต่ถ้าจะละความฟุ้งซ่านให้เด็ดขาด ต้องเจริญมรรคจนบรรลุเป็นพระอรหันต์
เมื่อนั้นกิเลสทั้งมวลรวมทั้งความฟุ้งซ่านย่อมไม่เกิดอีกเลย
ในทางตรงกันข้าม ขณะใดที่จิตเป็นกุศล เป็นบุญ ขณะนั้นจิตย่อมปราศจาก
ป้ายกำกับ:
พระธรรมชี้นำชีวิต
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น