วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ทำอย่างไรจึงจะไม่ฟุ้งซ่าน

ความจริงเรื่องของความฟุ้งซ่านเป็นเรื่องธรรมดาของคนมีกิเลส ขณะกิเลส
หรือบาปอกุศลเกิดขึ้นครั้งใด ขณะนั้นก็ถือว่าฟุ้งซ่านแล้ว เพราะอุทธัจจะอันเป็นสภาพของความฟุ้งซ่านไม่สงบเกิดร่วมด้วยทุกครั้ง
          ในทางตรงกันข้าม ขณะใดที่จิตเป็นกุศล เป็นบุญ ขณะนั้นจิตย่อมปราศจากความฟุ้งซ่าน เพราะฉะนั้นเมื่อไม่ต้องการให้จิตฟุ้งซ่าน เราก็ต้องทำกุศลอยู่เสมอไม่ว่าจะให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ช่วยเหลือกิจการงานที่ชอบ การอ่อนน้อมถ่อมตน การให้ส่วนบุญที่ทำแล้วแก่ผู้อื่น การอนุโมทนาบุญที่ผู้อื่นทำแล้ว การฟังธรรม การแสดงธรรม แม้การทำความเห็นให้ถูกต้องตรงก็เป็นกุศลทั้งนั้น การมีเมตตากรุณา เอื้อเอ็นดูแก่ผู้อื่นก็เป็นกุศล การอ่านหนังสือธรรมะก็เป็นกุศล กุศลนั้นมีมากมาย เมื่อเจริญกุศลอยู่ จิตก็ย่อมสงบจากกิเลสไม่ฟุ้งซ่าน แต่ถ้าจะละความฟุ้งซ่านให้เด็ดขาด ต้องเจริญมรรคจนบรรลุเป็นพระอรหันต์ เมื่อนั้นกิเลสทั้งมวลรวมทั้งความฟุ้งซ่านย่อมไม่เกิดอีกเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น