นี่แหละ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์อุบัติบังเกิดขึ้นมาในโลกเมื่อพระองค์เอาชนะกิเลสน้อยใหญ่ทั้งหลายได้หมดแล้ว พระองค์จึงได้เที่ยวจาริกแสดงธรรมพยุงศรัทธาความเชื่อความเลื่อมใสของผู้ฟังทั้งหลายให้มีกำลังเข้มแข็งขึ้น ไม่ท้อไม่ถอย ให้เป็นผู้มีใจเด็ดเดี่ยว นั่นแหละ พระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้านะเมื่อพระองค์ทรงแสดงไปแล้ว ผู้ฟังทั้งหลายชื่นใจ ใจเบิกใจบาน ใจตั้งลงได้ สามารถทำกุศลคุณงามความดีให้ยิ่งๆขึ้นไปได้
เมื่อผู้ใดได้ฟังพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วยดี ฟังด้วยความเคารพจริงๆแล้ว ไม่ใช่ว่าฟังแต่ขอไปทีเท่านั้น ตั้งใจฟังจริงๆ เหมือนอย่างธรรมที่บรรยายให้ฟังวันนี้แหละ ข้อใหญ่ใจความก็อยู่ที่บุคคลเราน่ะทำอะไรต้องให้มีความสัจความจริงใจ นี่ข้อใหญ่ใจความที่เราจะถือเอาไปฝึกตน คนส่วนมากแน่นอนล่ะ มักจะละเสียซึ่งความสัจ ไม่ค่อยเคารพต่อความสัจ เพราะฉะนั้นจึงทำบุญกุศลความดีให้เจริญมากขึ้นไปไม่ได้
ผู้ใดประสงค์ที่จะเพิ่มพูนบุญกุศลบารมีให้แก่กล้าขึ้นไปแล้วต้องเคารพในความสัจ ตนคิดจะทำอะไรลงไปแล้ว ตัดสินใจทำอย่างนี้เป็นความดีเป็นประโยชน์ตนและผู้อื่นอย่างนี้นะ ก็ทำตามที่ตนตั้งใจลงตัดสินใจลงไปนั้น ให้กิจการงานนั้นมันสำเร็จลุล่วงไปตามที่ตนตั้งใจไว้จริงๆอย่างนี่ เมื่อทำได้อย่างนี้บุญกุศลมันก็มากขึ้นได้ มันเป็นอย่างนั้นเรื่องมันน่ะ เพราะการงานแต่ละอย่างทำลงไปนี่มันไม่ใช่ไม่มีอุปสรรคอะ มันมีอุปสรรคมาขัดขวางทั้งนั้นเลย ผู้ใดกำลังใจอ่อนแอแล้วมันก็ฝ่าฟันอุปสรรคนั้นไปไม่ได้ มันก็ทำความดีสูงขึ้นไปไม่ได้ นั่นมันเป็นอย่างนั้น ผู้ใดมีใจอดทนเข้มแข็ง มีความเพียร ไม่ท้อไม่ถอยแล้ว ผู้นั้นต่อไปก็มีกำลังใจเข้มแข็งไปเรื่อยๆ
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น