วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ทำไมคนที่ปฏิบัติธรรมถึงเจ้าชู้ ??


          ความจริงแล้วมนุษย์ทุกคน หากไม่เป็นพระอริยเจ้าเพียงใด ย่อมเจ้าชู้ทุกคน เนื่องจากยังมีกิเลสอยู่เต็มหัวใจ แม้แต่พระธุดงค์กรรมฐาน ผู้ประกาศตนเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยังมีความกำหนัดในกามอยู่ เพียงแต่ว่าท่านเหล่านั้นมีจิตใต้สำนึกที่ดี พยายามข่มใจตนเองไว้

                ทั้งผู้ชายก็ดี ผู้หญิงก็ดี หรือเพศอื่นๆก็ดี ต่างก็มีความเจ้าชู้หมด เพียงแต่จะเจ้าชู้ออกมารูปแบบไหนเท่านั้น บางคนแสดงออกตรงๆ บางคนแอบเจ้าชู้ ก็อยู่ที่จิตใต้สำนึกและเหตุปัจจัยรอบด้านว่าเป็นอย่างไรด้วย

ทำไมคนปฏิบัติธรรมถึงเจ้าชู้?

                อย่างที่กล่าวมาแล้วว่าความจริงคนเราทุกคนเจ้าชู้หมด เพียงแต่คนที่ประกาศตัวออกมาว่าเป็นผู้ศึกษาและปฏิบัติธรรม จะถูกจ้องจับผิดเป็นพิเศษ หากแสดงอาการใดๆออกมาที่แสดงถึงความหมกมุ่นในกามมารมณ์ ก็จะถูกมองว่า เจ้าชู้

                 นอกจากนี้ ก็มีนักปฏิบัติธรรมบางกลุ่มที่ปฏิบัติธรรมเพื่อแสวงหากิเลส เช่น สวดมนต์ภาวนา นั่งสมาธิ เข้าวัดเข้าวา เพื่อให้เกิด ลาภ ยศ สรรเสริญ และในเรื่องกามด้วย

                  คนที่สวดมนต์ภาวนา หมั่นทำบุญทำทานบางกลุ่ม จะมีความเข้าใจผิดคิดว่า บุญสามารถล้างบาปได้ คือเมื่อตนทำความชั่วตอบสนองกิเลสได้แล้ว ก็จะทำบุญล้างบาปของตน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วบุญไม่สามารถล้างบาปได้

                  กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน คนที่หมั่นทำบุญในด้านต่างๆอยู่เสมอ จะมีความมั่นใจ ไม่เกรงกลัวสิ่งใด เพราะตนเองได้ทำบุญมามากแล้ว จึงกล้าที่จะทำความชั่ว เช่น มีหลายผัว หลายเมีย

                 ทั้งที่ความจริงแล้วการทำทานก็ดี การรักษาศีลก็ดี การเจริญสมาธิภาวนาก็ดี เป็นไปเพื่อความหลุดพ้นแห่งกองทุกข์ เป็นเครื่องพิจารณาในการตัดกิเลส ไม่ใช่สิ่งที่จะมาลบล้างบาป เพื่อตอบสนองกิเลสของตนเอง

                  บรรดานักปฏิบัติควรมีสติ และไม่ประมาท อย่าเห็นว่าความชั่วเพียงเล็กน้อยไม่มีผล แม้แต่องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดายังต้องรับกรรมที่ทำเพียงเล็กน้อย แล้วอย่างเราทั้งหลาย หากประมาทสร้างความชั่ว อันเป็นเครื่องบั่นทอนสติปัญญา ก็จะนำพาหนทางชีวิตในภายภาคหน้า ให้ไม่พบกับความสุขสงบได้เลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น