วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

"กูเกิ้ล"ยกเครื่องใหญ่ ระบบสืบค้นข้อมูลอัจฉริยะ


"กูเกิ้ลดูรึยัง", "ลองกูเกิ้ลดูสิ", "เดี๋ยวเปิดกูเกิ้ลก่อน" ฯลฯ เป็นคำที่ติดปากคนทั่วโลกมาตั้งนานแล้ว และสื่อความหมายถึง "ความแสนรู้" ของระบบสืบค้นข้อมูล หรือเสิร์ชเอนจิ้น อันดับ 1 อันโด่งดังนี้ได้เป็นอย่างดี

ล่าสุด มีกระแสข่าวแรงพอสมควรว่า ผู้บริหารและทีมวิศวกร "กูเกิ้ล" กำลังทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อ "ยกเครื่อง" ระบบสืบค้นข้อมูลของเว็บ "กูเกิ้ล" ครั้งใหญ่ ซึ่งคาดว่าถ้าประสบความสำเร็จแล้วล่ะก็ ภายในระยะเวลาอีกแค่ 2-3 เดือนข้างหน้า "พลเมืองเน็ต" ทั่วโลกจะมีโอกาสได้ทดลองใช้งานกันถ้วนหน้า!

เว็บไซต์ข่าวน.ส.พ.ฉบับดัง "เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล" รายงานข่าวการปรับปรุงวิธีการค้นหาข้อมูลของ "กูเกิ้ล" เอาไว้ว่าภายใน 2 - 3 เดือนข้างหน้านี้ เมื่อเราใช้ "กูเกิ้ล" สืบค้นข้อมูลในโลกอินเตอร์เน็ต "ผลลัพธ์" ที่ปรากฏขึ้นมาหลังเคาะแป้นเอ็นเทอร์ ก็จะไม่ได้มีแค่คำตอบเป็น "ลิงก์" สีฟ้าอีกต่อไป แต่บรรดา "ข้อมูลแวดล้อม" อันเกี่ยวข้องกับคำตอบที่ต้องการทั้งหมดจะปรากฏขึ้นมาให้เห็นด้วย แตกต่างจากวิธีสืบค้นข้อมูลแบบเก่าของ "กูเกิ้ล" ซึ่งโปรแกรมจะใช้วิธีค้นหาเอา "คำ" ที่สะกดเหมือนกัน เขียนเหมือนกัน และมีคนคลิกไปเข้าไปชมมากที่สุดมาโชว์ให้ดูในหน้าผลลัพธ์ พูดง่ายๆ หมายความว่า ตัว "กูเกิ้ล" นั้นไม่เข้าใจ "ความหมายที่แท้จริง" ของคำที่เรากรอกเข้าไปเพื่อค้นข้อมูล แต่อาศัยวิธีไปควานหาแค่ "คำคำนั้น" ในเว็บต่างๆ นับแสนนับล้านเว็บมาแสดงให้เราเลือกดู อย่างไรก็ตาม ด้วยระบบใหม่นี้ "กูเกิ้ล" จะฉลาดขึ้น มีความเป็นอัจฉริยะมากขึ้น โดยสามารถรู้ถึง "ความหมาย" ของคำที่เราต้องหาค้นหา พร้อมๆ กับสามารถแสดงผลลัพธ์ที่เชื่อมโยงกันได้โดยอัตโนมัต

สำหรับระบบใหม่ที่ "กูเกิ้ล" กำลังยกเครื่องดังกล่าวเรียกว่าเทคโนโลยี "Semantic Search" หรือซีแมนติก เสิร์ชเป็นการต่อยอดมาจากโปรแกรมค้น - จัดทำดัชนีข้อมูลในอินเตอร์เน็ตของบริษัท "เมตาเว็บ เทคโนโลยีส์" ซึ่ง "กูเกิ้ล" เข้าเทกโอเวอร์ซื้อกิจการนี้เมื่อราวๆ 2 ปีก่อนนายอามิต สิงหล ผู้บริหารระดับสูงของกูเกิ้ลเปิดเผยกับวอลล์ สตรีต เจอร์นัล เมื่อเร็วๆ นี้ว่าหลังจากนี้ "เว็บกูเกิ้ล" จะแสดงผลลัพธ์การสืบค้นได้ "ตรงประเด็น" ยิ่งขึ้นโดยโปรแกรมจะไล่เปรียบเทียบคำตอบกับ "ฐานข้อมูล" หลายร้อยล้านประเภท ไม่ว่าจะเป็นฐานข้อมูลของสถานที่ คน หรือสิ่งต่างๆ อีกมากมาย และในช่วงสองปีที่ผ่านมา บริษัทกูเกิ้ลได้ค่อยๆ พัฒนาฐานข้อมูลนี้ให้ใหญ่โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"Semantic Search" มีความสามารถในการช่วยเชื่อมโยงคำที่แตกต่างกันเข้าด้วยกัน อาทิ เมื่อคุณค้นคำว่า กูเกิ้ล ระบบก็จะเชื่อมโยงไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับ แลร์รี่ เพจ กับ เซอร์เกย์ บริน สองผู้ก่อตั้งกูเกิ้ลได้ด้วย" รายงานวอลล์ สตรีต เจอร์นัล ระบุนายอามิตยังเผยด้วยว่า ระบบสืบค้นข้อมูลใหม่ล่าสุดนี้จะทำงานคล้ายกับกระบวนวิธีการเรียนรู้ที่ทำ ให้ "มนุษย์เข้าใจโลก"รายงานข่าวจากทีมงานพัฒนาเว็บกูเกิ้ลอ้างว่า การยกเครื่องครั้งใหญ่น่าจะเริ่มทดสอบใช้งานกันอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแต่ นายอามิตกล่าวว่า ยังต้องทำงานกันต่อไปอีกเป็นปี เพื่อให้เว็บกูเกิ้ลเข้าสู่ "ยุคต่อไป" ของเว็บไซต์เสิร์ชเอนจิ้น

วอลล์ สตรีต เจอร์นัล ระบุว่า อีกตัวอย่างหนึ่งของ Semantic Search ก็คือ ณ ปัจจุบัน ถ้าเราลองค้นข้อมูลคำว่า "ake Tahoe" (ทะลสาบทาโฮ) ในสหรัฐอเมริกาคำตอบที่ได้จะเป็น "ลิงก์" เชื่อมไปสู่เว็บของสำนักงานท่องเที่ยวทาโฮ กับ ข้อมูลทะเลสาบทาโฮ ในเว็บไซต์วิกิพีเดีย ไปจนถึงสารพัดเว็บที่มีคำว่า "Lake Tahoe" อยู่ในหน้าเว็บเพจแต่เมื่อ "กูเกิ้ลใหม่" เริ่มใช้งาน คำตอบที่เพิ่มเติมขึ้นมาจะแสดงให้เห็นว่าระบบ "รู้จัก" ทะเลสาบดังกล่าวเป็นอย่างดี อาทิ แสดงข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง ลักษณะทางภูมิศาสตร์ อุณหภูมิเฉลี่ยในแต่ละช่วง หรือลงลึกไปจนถึงปริมาณความเค็มของน้ำในทะเลสาบหรืออีกตัวอย่าง เช่น ทุกวันนี้เมื่อเราถามกูเกิ้ลว่า "ทะเลสาบ 10 แห่งที่ใหญ่ที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีอะไรบ้าง?" จะได้คำตอบเพียงแค่ "ลิงก์" รายชื่อทะเลสาบต่างๆ ในแคลิฟอร์เนีย หรือ "ลิงก์" ของเว็บที่ตอบคำถามดังกล่าวได้แต่ระบบใหม่จะช่วยให้ "กูเกิ้ล" ตอบคำถามนี้ได้ด้วยตัวมันเอง

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า "กูเกิ้ล" จะละทิ้งรูปแบบการค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันไปทั้งหมด เพราะนับเป็น "จุดแข็ง" ที่ทำเงินให้มหาศาลโดยปีที่ผ่านมาวิธีการขาย "โฆษณา" ของกูเกิ้ล ทำรายได้ให้บริษัทถึง 1.1 ล้านล้านบาท!ซึ่งรูปแบบการทำงาน ก็คือ เมื่อเราค้นหาคำๆ ไหน เมื่อหน้า ผลลัพธ์โชว์ออกมา ข้อมูลโฆษณาที่เกี่ยวข้อง หรือสัมพันธ์กับคำค้น-คำตอบ ก็จะปรากฏออกมาด้วยในตำแหน่งใกล้เคียง อาทิ ถ้าเราค้นหารถรุ่นใดรุ่นหนึ่ง กูเกิ้ลจะโชว์โฆษณาซื้อขายรถยนต์ขึ้นมาข้างๆ เป็นต้นว่ากันว่าภายใต้ระบบใหม่ที่กำลังซุ่มพัฒนากันนี้ การวางโฆษณาสินค้าในกูเกิ้ลจะยิ่ง "ตรงกลุ่มเป้าหมาย" มากกว่าเดิมหลายเท่า ไม่ใช่ทำในลักษณะสุ่มหว่านไปกว้างๆ เช่นตอนนี้ แต่แน่นอนว่า เมื่อกูเกิ้ลเปลี่ยนแปลงระบบสืบค้าข้อมูลใหม่ บรรดาเว็บไซต์ต่างๆ ย่อมต้องปรับเปลี่ยนวิธีการ "เขียนเว็บไซต์" เช่นกัน เพื่อให้เว็บของตนสอดคล้องกับกระบวนคิดของ "สมองกล" กูเกิ้ลยุคใหม

วอลล์ สตรีต เจอร์นัล วิเคราะห์ว่าสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ "กูเกิ้ล" ต้องเร่งปรับระบบเสิร์ชเอนจิ้นให้รุดหน้า ก็สืบเนื่องมาจากปัจจัย 2-3 ประการสำคัญด้วยกัน นั่นคือ

  1. เพื่อเพิ่มรายได้โฆษณา
  2. เพื่อให้เทคโนโลยีสืบค้นข้อมูลของต้นล้ำหน้าคู่แข่ง เช่น "บิง" ของค่ายไมโครซอฟท์ อย่างเด็ดขาด
  3. เพื่อดึงให้ "นักท่องเน็ต" ใช้เวลาอยู่กับหน้าเว็บ "กูเกิ้ล" มากขึ้น
เพราะทุกวันนี้กระแสความแรงของเว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์ อาทิ "เฟซบุ๊ก" กับ "ทวิตเตอร์" ดูดดึงเอาเวลาของประชากรเน็ตไปเป็นส่วนใหญ่ ขณะเดียวกันเว็บสังคมออนไลน์ "กูเกิ้ล พลัส" ยังเบียดช่วยชิงเอาฐานลูกค้าจากเฟซบุ๊กมาได้ไม่มากเท่าที่ควรล่าสุด มีข่าวว่า เพื่อให้การสืบค้นข้อมูลฉลาดล้ำกว่าเดิม ทางผู้บริหาร "กูเกิ้ล" ได้เข้าไปติดต่อประสานงานขอสิทธิในการ "เข้าถึง" ข้อมูลในเว็บไซต์หน่วยงานของรัฐ รวมถึงฐานข้อมูล "ซีไอเอ เวิลด์ แฟกต์บุ๊ก" ที่รวบรวมข้อมูลประเทศต่างๆ ทั่วโลกอีกด้วย

กูเกิ้ลใหม่หลังผ่านการยกเครื่องจะ "อัจฉริยะ" ชนิดล้ำหน้าแซงคู่แข่งไม่เห็นฝุ่นจริงหรือไม่ จับตารอดูกันต่อไป อีกไม่ช้าไม่นาน นักท่องเน็ตทั่วโลกคงได้พิสูจน์กัน!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น