วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ขันติอด ขันติทน พระธรรมเทศนาโดย หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ


 ขันติอด ขันติทน

พระธรรมเทศนาโดย หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ
วัดป่าวิเวกวัฒนาราม บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส (๓ จบ)
ขนฺติปารมี สมฺปนฺโน อิติปิโส ภควา
ขนฺติอุปปารมี สมฺปนฺโน อิติปิโส ภควา
ขนฺติปรมตฺถปารมี สมฺปนฺโน อิติปิโส ภควา

ณ บัดนี้จะได้อธิบายใน ความอดทน ขนฺติ ตโป ตปสฺสิโน
ขันติ ความอดทน เป็นเครื่องทำลายความชั่วใดๆ ในตัวในใจของเราประการใดๆ
เช่นว่า ความโกรธทั้งหลายอันมันมาทำร้ายเบียดเบียนตน หนึ่ง
มิตรสหาย หนึ่ง ญาติพี่น้อง หนึ่ง ผู้ใกล้ชิด หนึ่ง
ทำให้ได้รับความเสียหายเพราะตนขาดความอดทน
ตนเป็นบุคคลผู้ไม่มีความอดทนแต่อย่างใดประการใด

อันนี้ให้เราทุกคนคิดอ่านว่า ในการที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ในเวลาบัดเดี๋ยวนี้
ให้ใช้ขันติดความอดทนให้เป็น
อย่าเป็นคนที่ไม่เอาไหน ขี้เกียจขี้คร้าน มักง่ายไม่มีความอดทน
เพราะเหตุเหล่านี้พาให้เราเสียประโยชน์ที่ฐานะเป็นมนุษย์นี้แล้ว
ให้ตนเองเป็นผู้มีบุญกุศล มีธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นผลเป็นประโยชน์
ให้กับจิตให้กับตนของตนตลอดต่อไป

เราทุกคนได้มาพบปะพระพุทธศาสนาพุทธะนี้แล้ว
ให้ได้รับประโยชน์ ให้ความดีเกิดขึ้นมาในตนของตน
จงมีขันติมีความสงบเสงี่ยมตั้งใจในธรรมอยู่เสมอ

ทำความดีก็ให้อดทน ไหว้พระสวดมนต์ก็ให้อดทน
รักษาศีลก็ให้อดทน ละทิ้งความชั่วใดๆ ก็ให้ใช้ความอดทน
สะสมบุญกุศล สะสมธรรมะ สะสมปัญญา
คิดอ่านประการใดๆ ก็ให้มีขันติมีโสรัจจธรรมประจำตนอยู่เสมอ
เพราะจักเป็นประโยชน์ ติดตามนำตนไปในภายภาคหน้า
เพราะจะได้เกิดอีกต่อไปในโลกนี้หลายภพหลายชาติ

เดี๋ยวนี้ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้มาทำความดี ได้มาพบปะพระพุทธศาสนา
ยากนักยากหนานะกว่าจะได้มาเกิดเป็นมนุษย์
เกิดมาแล้วนี้มารู้จักภาวะในตนของตน ในชีวิตของตน
นั่นคือบุญเป็นผลประโยชน์ ให้ความสุขในขณะนี้ หนึ่ง
ปัญญาพาให้คิดอ่านใดๆ รู้จักการละเว้นสิ่งความชั่วใดๆ
ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ทางวัตถุข้าวของ หนึ่ง
บาปกรรมความชั่วไม่เป็นมลทินแก่ใจ หนึ่ง
เราเป็นผู้สะสมความสุขให้แก่จิตของตน หนึ่ง
ผลประโยชน์คือธรรมะปัญญามีไว้แล้วแก่ตน หนึ่ง

สิ่งเหล่านี้จึงเป็นประโยชน์แก่ตนของตนตลอดไป เป็นปัจจัยให้แก่จิตของตนสืบไป
แม้ต่อไปภายหน้าก็เช่นเดียวกัน ตนของตนก็จะได้รับความสุขสะดวกสบาย
จะได้เป็นผู้มีปัญญาความคิดอ่านดี จะได้พบปะบัณฑิตนักปราชญ์
จะเพิ่มเติมบุญกุศลและธรรมะ จะได้ชัยชนะในสิ่งความชั่วใดๆ

ตัวเราเดี๋ยวนี้อย่างไร ปุถุชนมิใช่หรือ ปุถุชนมีอะไร
มีแต่ความดี-ชั่วทั้งหลายห่อหุ้มใจของตนอยู่ บังคับบัญชาให้เป็นชั่วตลอดไป
ให้คิดอ่านให้ดี เราเป็นมนุษย์ จะเป็นผู้ละเว้นความชั่วใดๆ ได้
ใช้ความอดทนในตนของตนอยู่เสมอ

ชีวิต การเคลื่อนไหวไปมา เป็นอยู่ จะว่าอย่างใด จะไปทิศใดทางใด
จึงจักได้ความสุขความสงบ จึงจะได้สำเร็จเป็นมรรคเป็นผล
และเข้าสู่พระนิพพานอย่างท่านผู้ไปได้แล้วเหล่านั้น
จึงว่าให้ตั้งใจทำดีในตนของตน เพิ่มเติมเก็บไว้ในจิตตลอดไป
จึงจักได้พบปะพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระอริยเจ้า
ปราชญ์ บัณฑิต นักพรตนักบวชผู้ทรงสัมมาทั้งหลาย

เดี๋ยวนี้ฝึกหัดตนเองให้เป็นนิสัยปัจจัย
ให้มีความตั้งอกตั้งใจ ใช้ขันติความอดทนตลอดทุกอย่างทุกเรื่องไป
จึงชื่อว่าเกิดมาแล้วมาเพื่อที่จะเก็บสะสมความดี
เพิ่มเติมบุญกุศล เพิ่มเติมธรรมะ เพิ่มเติมปัญญา
เพิ่มเติมองค์ญาณ องค์มรรค เครื่องอันที่จะพาตนให้พ้นจากทุกข์ต่อไป

ผู้มีขันติ เป็นบัณฑิต
ผู้มีความอดทน เป็นผู้รู้จักภาวะดีและชั่วของตน

ที่อาตมาได้เตือนลูกหลานญาติพี่น้องในขันติคือความอดทน
ขนฺติ ตโป ตปสฺสิโน ขันติความอดทนอดกลั้นเป็นตบะธรรม
ทำลายความชั่วใดๆ ของตนได้
ทำให้ตนของตนเป็นผู้ได้รับความดี คือบุญกุศลอยู่เป็นนิจกาล
ให้สมกับตนของตนเป็นผู้เกิดมาเป็นมนุษย์ หนึ่ง
ได้พบปะพระธรรมคำสอน หนึ่ง
ได้พบปะพระพุทธศาสนา หนึ่ง
ได้ทำความดีประการใดๆ หนึ่ง

ขอจงพินิจพิจารณาคิดอ่านให้ดี ตั้งใจในตนของตนอยู่เสมอ
เราเกิดมาต้องเพิ่มเติมความดี ละเว้นความชั่วใดๆ
และจงเป็นผู้ตั้งใจในขันติบารมีต่อไป

อายุวฒฺโกฯ


จาก...พระธรรมเทศนาของหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ
จัดพิมพ์โดยคณะศิษย์วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
พิมพ์ครั้งที่ ๑ : กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น