วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

หลวงปู่ศรี มหาวีโร พระเกจิแห่งร้อยเอ็ด


"พระเทพวิสุทธิมงคล" หรือ "หลวงปู่ศรี มหาวีโร" วัดประชาคมวนาราม (ป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด พระวิปัสสนา จารย์สายอีสาน ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธา เป็นอย่างมาก

ท่านมีนามเดิม ว่า ศรี ปักกะสีนัง เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2460 ตรงกับวันศุกร์ เดือนหก ปีมะเมีย ที่บ้านขามป้อม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายอ่อนสีและนางทุม ปักกะสีนัง

ในช่วงปฐมวัย เข้าศึกษาที่โรงเรียนประชาบาล วัดบ้านขามป้อม ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำท้องถิ่น จบชั้นประถมปีที่ 6 และได้ขวนขวายเข้ามาเรียนต่อ ที่โรงเรียนสารคามพิทยาคม จนจบชั้นมัธยมปีที่ 3 เมื่อปี พ.ศ.2480 ก่อนได้เข้ารับราชการเป็นครู

ครั้นอายุ 28 ปี ท่านได้บรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดราษฎร์รังสรรค์ บ้านป่ายาง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พระโพธิญาณมุนี (ดำ) เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด (ธรรมยุต) เป็นอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า มหาวีโร

พ.ศ.2489 ท่านได้จาริกไปจำพรรษาที่วัดป่าแสนสำราญ อ.วาริน ชำราบ จ.อุบลราชธานี มีโอกาสศึกษา ปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสสนา กับ ท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ซึ่งเป็นศิษย์ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในปฏิปทาของหลวงปู่มั่น บุรพาจารย์ใหญ่ ด้านวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งขณะนั้น อยู่ในช่วงปัจฉิมวัย พำนักอยู่ที่สำนักป่า บ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

พระอาจารย์ศรี ได้ไปกราบนมัสการ และศึกษาธรรมกับหลวงปู่มั่น พร้อมทั้งเป?นอุปัฏฐาก รับใช้ จนกระทั่งหลวงปู่มั่น ได้ถึงแก่มรณภาพ

พ.ศ.2495 ได้ร่วมสร้างวัดป่าหนองแซง โดยบัญชาของ ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี

หลวงปู่ศรี ได้ออกจาริกห่างถิ่นมหาสาร คาม ในปี พ.ศ.2496 ท่านจาริกมายังวัด ป่ากุง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ สร้างมาประมาณ 170 ปี ท่านเป็นผู้นำศรัทธาในการพัฒนาวัดป่ากุงให้รุ่งเรืองโดยลำดับ จนกลายเป็นวัดที่งามสง่า เป็นศาสนสถานอันไพศาลสำหรับชาวพุทธผู้ศรัทธาในธรรม

หลวงปู่ศรี จำพรรษาที่วัดประชาคมวนาราม หรือวัดป่ากุง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 เป็นต้นมา ท่านเป็นผู้นำในการสร้างคุณูปการและสาธารณประโยชน์ เป็นจำนวนมาก

ที่เป็นงานยิ่งใหญ่ คือ การก่อสร้างพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ณ วัดผาน้ำทิพย์ อ.หนอง พอก จ.ร้อยเอ็ด ประดิษฐานตระหง่านตระการตา ด้วยฝีมือลูกหลานไทย เป็นปูชนียสถานสำคัญสืบไปภายภาคหน้า

ในยามเช้า ผู้คนจากบ้านไกลหลายถิ่น จะมารวมกันที่หน้าวัดประชาคมวนาราม เพื่อเตรียมถวายภัตตาหารบิณฑบาต เป็นโอกาสที่สาธุชนจะได้กราบนมัสการหลวงปู่ศรีอย่างใกล้ชิด

การบิณฑบาต เป็นวัตรที่พระกัมมัฏฐานประพฤติปฏิบัติ หลวงปู่ศรีจะตื่นแต่ดึก ออกเดินไปรอบวัด จนถึงเวลาบิณฑบาต ทำให้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงแม้จะมีอายุกว่า 90 ปีแล้ว

หลังจากบิณฑบาตแล้ว สาธุชนจะร่วมกันถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสามเณร หลังจากนั้นจะได้รับฟังธรรมเทศนาจากหลวงปู่ศรี ที่มีความสามารถอย่างสูงในการแจกแจงแสดงธรรมให้ผู้ฟังได้เข้าใจอย่างง่ายดาย

หลวงปู่ศรี ได้พระคณาจารย์ที่เป็นสหธรรมิกที่ถูกอัธยาศัย อาทิ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน, หลวงปู่บัว สิริปุณโณ, พระอาจารย์ชา สุภัทโท ซึ่งท่านเคยได้ออกเดินธุดงค์บำเพ็ญสมณธรรมด้วยกัน ทั้งสิ้น

หลวงปู่ศรี เป็นร่มโพธิ์สำหรับสาธุชนทุกคน ท่านมีเมตตาธรรมเสมอภาค ไม่เคยแบ่งชั้นแก่ผู้ใด แม้ท่านที่เดินทางไปวัดประชาคมวนาราม จ.ร้อยเอ็ด ก็จะได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี

ปัจจุบันนี้ แม้ท่านจะมีภารกิจต่างๆ มากมาย และเป็นประธานในการสร้างวัดไทยในต่างแดนอีกวัดหนึ่ง แต่ท่านก็โปรดเราด้วยธรรมเสมอ

ท่านแสดงธรรมไว้เป็นบทปฏิบัติว่า "ถ้าสติไปถึงจิตเมื่อไรเมื่อนั้นพวกกิเลสหรือนิวรณ์ ทั้งหลายนี่ มันจะถอยหนีไปหมดเลย"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น