วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เมื่อไม่มีเหตุปัจจัยแล้วมันก็หยุด โดย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ


   ทีนี้เมื่อบุคคลมาทำเหตุปัจจัยนี้ให้สมบูรณ์บริบูรณ์แล้ว เหตุปัจจัยฝ่ายบุญฝ่ายกุศลนี่นะเมื่อกระทำบำเพ็ญให้สมบูรณ์บริบูรณ์แล้วเต็มที่มันก็ขจัดกิเลสบาปอธรรมทั้งหลายน้อยใหญ่ให้หมดสิ้นไปจากจิตใจ เมื่อกิเลสบาปอธรรมหมดสิ้นไปแล้ว มันก็ไม่มีเหตุปัจจัยอันใดที่จะมานำดวงจิตนี้ให้ไปเกิดในภพน้อยภพใหญ่ ไปสุคติบ้าง ไปทุคติบ้าง อย่างนี้ไม่มี นั้นแหละเมื่อมันไม่มีเหตุปัจจัยจะนำไปแล้วมันก็หยุด มันก็หยุดลง หยุดหมุนเวียนนะ หยุดไปแสวงหาที่เกิดต่างๆดังกล่าวมานั้นน่ะ ไม่ไปแล้วมันหยุดแล้ว

   นั้นแหละก็แสดงว่า เหตุปัจจัยทั้งหลายเหล่านั้นเมื่อมันทำหน้าที่มัน คือ ละอาสวกิเลสหมดสิ้นไปแล้วมันก็ดับไป มันเป็นอย่างนั้น แม้ปัญญาก็ดับ สุดท้ายมานะ เป็นอย่างนั้น ปัญญาก็ทำหน้าที่ของมันแค่ละอุปาทานความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้าว่าเป็นตัวเป็นตนเป็นเราเป็นเขาได้โดยเด็ดขาดลงไปแล้วปัญญานั้นมันก็ดับไปตามกัน ปัญญาแหละดับเป็นวาระสุดท้าย