วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

เทศกาลอาหารทะเลจังหวัดสมุทรสาคร ครั้งที่ 13


จังหวัดสมุทรสาคร อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวแบบไม่ต้องเดินทางไกล มีธรรมชาติที่งดงาม มีของกินอร่อย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจจำนวนหลายแห่ง เหมาะสำหรับคนมีงบน้อยเบี้ยน้อย ที่สำคัญคือต้องไม่พลาดไปเที่ยวงานเทศกาลอาหารทะเลจังหวัดสมุทรสาคร ครั้งที่ 13 ณ บริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร

        สำนักงานสมุทรสงคราม ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้สนใจ เที่ยวงาน เทศกาลอาหารทะเลจังหวัดสมุทรสาคร ครั้งที่ 13 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 ก.พ. - 3 มี.ค. นี้ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ภายในงานมีการจัด กิจกรรมที่น่าสนใจหลากหลายกิจกรรม ได้แก่ เลือกซื้อสินค้าจากชุมชน สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ควบคู่กับการแสดงทางวัฒนธรรมและการแสดงจากนักร้อง ศิลปินตลก และความบันเทิงต่างๆ อีกมากมาย การออกร้านอาหารทะเลปรุงเสร็จจากชมรมร้านอาหารจังหวัดสมุทรสาครและร้านอาหารอร่อยกว่า 50 ร้าน โดยนักท่องเที่ยวสามารถที่จะเลือกชม เลือกชิมลิ้มลองอาหารทะเลปรุงเสร็จหลากหลายเมนู จากฝีมือกุ๊กระดับ 5 ดาว และที่พลาดไม่ได้คือไฮไลท์สำคัญ ในพิธีเปิดงานฯ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 จะมีสาธิตการปรุงเมนู “สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาทะเล”

        ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสบรรยากาศยามพลบค่ำอันโรแมนติก ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่งดงามริมแม่น้ำท่าจีน นอกจากนี้ในบริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ถือเป็นอีกหนึ่งจุดส่งตะวันที่สวยที่สุด อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรสาคร อีกทั้งยังสามารถเดินทางไปเลือกซื้ออาหารทะเลสด-แปรรูป จากตลาดในบริเวณใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นตลาดมหาชัยและตลาดทะเลไทย จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาร่วมช้อป ชิม ชิล กับ เมนูอาหารทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา อาหารทะเลแปรรูป รวมถึงสินค้าชุมชน ซึ่งสามารถเดินทางมาร่วมงานได้อย่างสะดวกสบายด้วยระยะห่างจากกรุงเทพฯ ด้วยระยะทางเพียงแค่ 34 กิโลเมตร



        สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในจังหวัดสมุทรสาคร

 ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ที่อยู่บริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งประชาชนเคารพนับถือ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวประมงในจังหวัด โดยก่อนออกเรือเพื่อไปหาปลาทุกครั้งชาวประมงจะ ต้องไปทำพิธีสักการบูชา และจุดประทัดบริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพื่อเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ภายในบริเวณด้านหลังยังมีเสาหลักเมืองให้ได้ไปกราบไหว้กันอีกด้วย

        ศาลพันท้ายนรสิงห์ ตั้งอยู่ตำบลโคก ศาลนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พันท้ายนรสิงห์ ในคราวที่คัดท้ายเรือพระที่นั่งเอกชัยจนหัวเรือชนกิ่งไม้ใหญ่ริมคลองโคกขาม ทำให้โขนเรือหักตกลงในน้ำ พันท้ายนรสิงห์กราบบังคมทูลพระ เจ้าเสือ ให้ประหารชีวิตตามกฎมณเฑียรบาล พระเจ้าเสือทรงจำฝืนพระทัยตามพระราชกำหนดที่วางไว้ จึงมีรับสั่งให้ประหารชีวิตพันท้ายนรสิงห์ แล้วให้ทำศาลขึ้นสูงเพียงตา และนำศีรษะพันท้ายนรสิงห์กับหัวเรือพระที่นั่งเอกชัย ที่หักขึ้นพลีกรรมไว้บน ศาล เพื่อเป็นอนุสรณ์แสดงถึงความซื่อสัตย์จงรักภักดี ต่อมากรมศิลปากรได้จัดสร้างศาลขึ้นใหม่แทนหลังเก่าที่พังลงมา ภายในศาลมีรูปปั้นของพันท้ายนรสิงห์ ขนาดเท่าคนจริงอยู่ในท่าถือท้ายคัดเรือ เป็นที่นับถือของชาวบ้านเป็นอย่างมาก

        การเดินทางจาก ตัวเมืองมหาชัยใช้ทางหลวงหมายเลข 3242 เลย รพ.สมุทรสาครไปราว 500 ม. เลี้ยวขวาตรงสามแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 3243 ตรงไปข้ามสะพานข้ามคลองมหาชัย ขับไปจนสุดถนน ซึ่งเป็นทางแยก เลี้ยว ซ้ายเข้า ถ.นิคมสหกรณ์ ตรงไป ผ่านวัดสหกรณ์โฆสิตาราม แล้วเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.สหกรณ์-พันท้ายนรสิงห์ ตรงไปจนสุดทางก็จะถึงศาล

        นมัสการพระกลางน้ำ ถูกจัดให้เป็น “อันซีนสมุทรสาคร” ซึ่งเป็นศาลากลางทะเล มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายใน ตั้งอยู่ ณ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ได้ เพราะมีสถานที่ท่อง เที่ยวที่น่าสนใจ ทั้งประเภทธรรมชาติ ลำคลอง ทะเล วิถีชีวิตทางน้ำ

        การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปทางสมุทรสาคร บนเส้นพระราม 2 ข้ามถนนวงแหวนไป จนถึงวัดพันท้ายนรสิงห์ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยวัดพันท้ายฯ ขับตามป้าย อบต.พันท้ายฯ ไปเรื่อยๆ พอถึงอบต.ขับเลยไปอีกนิดนึงเจอ ทางแยกขวามือ ก็เลี้ยวเข้าไป เจอสะพานจะเห็นป้ายร้านครัวริมทะเล ถนนจะค่อนข้างแคบและขรุขระ

        นมัสการพ่อปู่โกรกกราก เป็นวัดเก่าแก่ ริมแม่น้ำท่าจีน สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น สิ่งก่อสร้างประกอบด้วย พระอุโบสถไม้ เจดีย์ราย 2 องค์ สิ่งที่น่าแปลกของวัดนี้คือ พระประธานในโบสถ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลาแลงปางมารวิชัย และรูปเหมือนหลวงปู่กรับ หรือพระครูธรรมสาคร อดีตเจ้าอาวาสวัดโกรกกราก ล้วนแต่ใส่แว่นตาดำ กล่าวกันว่าเคยมีผู้มาบนบานศาลกล่าวให้อาการบาดเจ็บที่ดวงตา หายขาด แล้วจึงถวายแว่นดำเป็นการแก้บน ผู้คนจึงนิยมถวาย แว่นตาดำสวมไว้ตลอดนับแต่นั้นเป็นต้นมา

        การเดินทาง จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 3242 เลยโรงพยาบาลสมุทรสาครประมาณ 500 เมตร เลี้ยวขวาตรงสามแยกเข้าถนนกิจมณี (ทางหลวงหมายเลข 3243) ตรงไปข้ามทางรถไฟ และสะพานข้ามคลองมหาชัย ลง สะพานแล้วเลี้ยวขวา ผ่านโค้งวัดตึกมหาชยาราม ตรงไปอีกราว 2.5 กิโลเมตร มีบริการถสองแถวสายมหาชัย-บ้านโกรกกราก ที่คิวรถถนนราษฎร์บรรจบ

        สำหรับท่านที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ชมรมร้านอาหารจังหวัดสมุทรสาคร หมายเลขโทรศัพท์ 034-820737, 034-82 0822 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม หมายเลข โทรศัพท์ 034-75 2827-8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น