วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ดาราหนังโป๊อเมริกัน ปล่อยโฮหลังติดเอดส์ ร้องใส่ถุงยางตอนแสดง

ดาราหนังโป๊อเมริกัน เรียกร้องให้วงการหนังโป๊ หันมาใช้ถุงยังอนามัยกันมากขึ้น หลังจากมีผู้ติดเชื้อเอดส์เป็นจำนวนมาก

          สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ดาราหนังโป๊ของอเมริกัน ที่ติดเชื้อเอชไอวีจำนวนหนึ่ง ได้ออกมาเรียกร้องให้อุตสาหกรรมหนังผู้ใหญ่ บังคับให้มีการใส่ถุงยางอนามันขณะที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เนื่องจากสถิติการติดเชื้อของดาราหนังโป๊ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ข้อเรียกร้องที่ให้ดาราหนังโป๊ตรวจเลือดทุก 14 วันนั้น ใช้ไม่ได้ผล

          ทั้งนี้ นายร็อด เดลี่ ดาราหนังโป๊ที่ติดเชื้อเอดส์ ซึ่งได้เข้าร่วมในงานประชุมที่จัดขึ้นโดยมูลนิธิช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอดส์ ได้บอกว่า การ ใช้ถุงยางอนามัยในอุตสาหกรรมหนังโป๊ไม่ใช่เรื่องแย่เลยสักนิด หากวงการหนังโป๊ให้ความใส่ใจกับนักแสดงบ้าง เขาก็จะให้นักแสดงใส่ถุงยางอนามัย โดยก่อนหน้านี้ นายร็อด เดลี่ เพิ่งมาตรวจเจอว่าตัวเขาติดเชื้อเอดส์เมื่อเดือนที่แล้ว

          นอกจากนี้ นายร็อด เดลี่ ยังเสริมว่า อุตสาหกรรมหนังโป๊ เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และสิ่งที่ทุกคนคิดก็คือเงินมหาศาลที่จะได้รับ ตลอดเวลา 8 ปีที่ผ่านมา เขาถ่ายหนังโป๊ไปกว่า 100 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหนังที่เจาะตลาดเกย์ และเขาเองก็ใส่ถุงยางอนามัยมาโดยตลอด ซึ่งในวงการหนังเกย์นั้น ค่อนข้างรับได้กับเรื่องนี้ เขาไม่รู้ว่าเขาติดเชื้อเอชไอวีมาจากใคร แต่แฟนของเขาคือ คาเมร่อน เบย์ ดาราหนังโป๊สาว ก็มารู้ตัวว่าเธอติดเชื้อเอชไอวี ไม่นานก่อนที่ร็อดจะรู้ตัว

          ด้านคาเมรอน เบย์ ดาราหนังโป๊สาว เผยว่า เพียงแค่ 3 เดือนที่เธอก้าวเข้าสู่วงการหนังโป๊ เธอก็ถ่ายหนังโป๊ไปแล้วกว่า 10 เรื่อง และเธอก็ทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่เป็นพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี มีครั้งหนึ่ง ในขณะที่เธอกำลังถ่ายทำนั้น ปรากฏว่าดาราหนังโป๊ชายที่เธอแสดงด้วย มีเลือดออก แต่ก็ยังคงถ่ายทำกันต่อไป  และในวันนั้น ร็อด เดลี่ ก็รับบทเป็นนักแสดงแสตนด์อินแทนดาราคนนั้นด้วย

          อย่าง ไรก็ตาม ด้านเจ้าหน้าที่ในวงการหนังโป๊ ออกมาชี้แจงว่า พวกเขาได้พยายามรณรงค์ให้มีการใช้ถุงยางอนามัยเมื่อประมาณ 9 ปีที่แล้ว ในช่วงที่เชื้อเอดส์แพร่ระบาด แต่นั่นทำให้รายได้ลดลงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่า คนดูหนังไม่ต้องการที่จะดูดาราหนังโป๊ใส่ถุงยาง ซึ่งรายได้ของหนังโป๊นั้น อยู่ที่ประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 217,805 ล้านบาทต่อปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น