วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557

การดูแลรักษา และทำความสะอาดภายในรถยนต์


การดูแลภายในรถยนต์ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่าต้องดูแลภายนอกเสียอีก
เพราะในชีวิตประจำวันเราต้องอยู่ภายในรถตลอดเวลา
ต่างจากภายนอกที่เอาไว้โชว์ความสวยงามสำหรับอวดสายตาคนเท่านั้น
การดูแลภายในมีจุดหลัก ๆ อยู่ 2 จุดเท่านั้นคือบริเวณคอนโซลหน้ารถ และเบาะนั่งผู้โดยสาร
ส่วนเรื่องของการทำความสะอาดเบาะ ควรดูว่าวัสดุหุ้มเบาะเป็นผ้าหรือหนัง (หนังแท้หรือหนังเทียม)
เพราะวัสดุทั้งสองชนิดมีข้อดีและข้อเสียต่างกันคือ
เบาะผ้าจะดูแลทำความสะอาดยากกว่า แต่จะไม่เก็บความร้อนในขณะจอดรถตากแดด
ส่วนหนังแท้หรือหนังเทียมจะดูแลทำความสะอาดง่าย แต่จะเก็บความร้อนได้มากกว่าแบบผ้า
ดังนั้นจึงควรเลือกวิธีทำความ สะอาดให้เหมาะสม ก่อนเริ่มทำความสะอาด ให้นำรถมาจอดไว้ในที่โล่งแจ้งและมีแสงสว่าง เปิดประตูและกระจกหมดทั้ง 4 บาน ใช้ไม้ตีที่นอนที่ทำมาจากหวาย (มีจำหน่ายตามร้านหวายทั่วไป) มาตีเบาะและพนักพิงให้ทั่วทั้งเบาะหน้าและหลัง ผู้ทำความสะอาดควรอยู่ต้นลม เพื่อป้องกันไม่ให้สูดดมฝุ่นที่ฟุ้งกระจายออกมา
    
ส่วนการทำความ สะอาดเบาะหนังแท้หรือหนังเทียมนั้น ควรใช้น้ำยาขัดเงาทำความสะอาดเบาะ โดยใช้ผ้าหรือฟองน้ำจุ่มน้ำยาขัดเงาขัดคราบสกปรกให้ทั่ว จุ่มน้ำยาแต่น้อยเพื่อป้องกันการเหนียวเหนอะหนะ และน้ำยาชนิดนี้ยังสามารถนำมาทำความสะอาดแผงหน้าปัดและแผงประตูได้เช่นกัน คุณสมบัติของน้ำยาจะช่วยทำให้พื้นผิวหน้าสะอาด ปกป้องฝุ่นไม่ให้จับติดแน่น ป้องกันการซีดจาง กรอบแห้งแตกร้าว จากแสงแดดเผา และช่วยเพิ่มความเงางามให้ดูเหมือนใหม่ตลอด
    
สำหรับพรมพื้นรถ ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่ใช้ในรถ หรือเครื่องดูดฝุ่นบ้านมาดูดฝุ่นตามที่ต่าง ๆ แต่ถ้าไม่มีอุปกรณ์ดังกล่าว หรือมีฝุ่นไม่มาก ใช้กระดาษกาวมาพันรอบปลายนิ้วมือ 1 รอบ โดยให้กระดาษกาวส่วนที่มีความเหนียวที่สามารถจับติดกับสิ่งอื่นอยู่ด้านนอก นำมาเก็บสิ่งต่าง ๆ เช่น เศษขนม เม็ดดิน เม็ดทราย หรือเส้นผมที่ตกหล่นบนพรมพื้นรถ หลังจากทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เครื่องปรับอากาศภายในรถก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องรู้จักวิธีการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างอากาศที่บริสุทธิ์ให้แก่ผู้ขับขี่ เพราะมิฉะนั้นอาจเกิดกลิ่นอับในรถได้
    
การเกิดกลิ่นอับในรถมัก เกิดจากเครื่องปรับอากาศทำงานจนมีอุณหภูมิต่ำจนเกิดหยดน้ำสะสมภายในตู้คอยล์ เย็นเป็นจำนวนมาก น้ำบางส่วนจะไหลออกมาทางท่อน้ำทิ้ง แต่ยังมีน้ำบางส่วนยังเหลือตกค้างอยู่ภายในตู้คอยล์เย็น ทำให้เกิดการอับชื้นและเกิดเชื้อราขึ้น

สำหรับกลิ่นเหม็นอับนี้ยัง อาจเกิดได้จากการนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามารับประทานในรถหรือจากการสูบ บุหรี่และทิ้งก้นบุหรี่ไว้ในที่เขี่ยบุหรี่ ซึ่งส่วนใหญ่จะติดตั้งอยู่ใต้แผงวิทยุ และแผงควบคุมเครื่องปรับอากาศโดยมากจะไม่มีฝาปิด ควันบุหรี่และกลิ่นอาหารสามารถแพร่กระจายไปทั่วห้องโดยสาร และไปเกาะติดตามอุปกรณ์ต่าง ๆ หมุนวนเข้าไปในตู้คอยล์เย็น ทำให้เกิดกลิ่นอับ
    
ดังนั้นก่อนจะจอดรถประมาณ 3 นาที ให้กดปุ่ม A/C ในตำแหน่งปิด พร้อมกับเปิดพัดลมในตำแหน่งแรงสุด ให้แรงลมไล่หยดน้ำและความชื้นให้ระเหยออกจากตู้คอยล์เย็นให้หมด เพื่อขจัดความชื้นและกลิ่นอับ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของคอยล์เย็นให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
    
ไม่ว่าจะรถเก่าหรือรถใหม่ ถ้าห้องโดยสารสะอาดด้วยแล้วก็ชวนให้เข้าไปนั่งด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าเป็นรถใหม่แต่ห้องโดยสารมีกลิ่นอับและรกรุงรัง อย่างนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น