วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ธันวาคมนี้เตรียมชมแสงเหนือที่สวยงามที่สุดในรอบ 11 ปี


ธันวาคมนี้ขาเที่ยวเตรียมพร้อมไปชม ปรากฏการณ์แสงเหนือ (Northern Light) ที่สวยงามที่สุดในรอบ 11 ปี โดยปรากฏการณ์แสงเหนือที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี และสามารถเห็นได้ทั่วไปตามแถบขั้วโลกเหนือ แต่สำหรับปีนี้จะ แตกต่างออกไป เนื่องจากเป็นปีที่ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะสวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ วันนี้เราขอแนะนำสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมแสงเหนือมากที่สุดในโลก

        ปรากฏการณ์แสงเหนือ หรือ ออโรรา บอเรลลีส เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติบริเวณขั้วโลกเหนือ คำว่า ออโรรา บอเรลลีส เป็นภาษาละติน แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า รุ่งอรุณสีแดงแห่งทิศเหนือ ตั้งชื่อโดย กาลิเลโอ กาลิเลอิ นักดาราศาสตร์ชื่อดัง แสงเหนือถือเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ใครที่ได้พบเห็นต่างก็จะประทับใจไปตลอดชีวิตแต่สำหรับปีนี้มีความพิเศษกว่าปีอื่นๆ

        เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์จากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ นาซา ออกมาเปิดเผยว่าในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้จะเป็นเดือนที่แสงเหนือมีความสวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 11 ปี เนื่องจากเป็นปีที่ดวงอาทิตย์ปล่อยเปลวสุริยะออกมามากกว่าปีอื่นๆ โดยปรากฏการณ์นี้จะพบเห็นได้ทั่วไปตั้งแต่ตอนเหนือของแคนาดา กรีนแลนด์ สแกนดิเนเวีย และรัสเซีย วันนี้เราจึงรวบรวมสถานที่ทีดีที่สุด สำหรับการชม ปรากฏการณ์แสงเหนือ ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้

        เริ่มกันที่ที่แรก ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน ในประเทศไอซ์แลนด์ โมยาน เบรนน์ ช่างภาพชื่อดังที่ตามถ่ายภาพแสงเหนือมานานหลายปีเล่าให้ฟังว่าปกติแล้ว นักท่องเที่ยวจะเห็นแสงเหนือในเกือบทุกพื้นที่ของไอซ์แลนด์ แต่ที่ที่สวยที่สุด สำหรับเขาแล้วขอยกให้กับทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน เพราะเมื่อแสงเหนือส่งลงมากระทบกับพื้นผิวของน้ำแข็งจะก่อให้เกิดประกายสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยทางการท้องถิ่นได้จัดเตรียมเรือเอาไว้ สำหรับล่องชมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน คิดค่าตั๋วคนละ 31 ดอลลาร์ หรือราว 980 บาท

        แห่งต่อมาเราขอพาไปที่ เมืองแฟร์แบงก์ มลรัฐอลาสกา สหรัฐอเมริกา สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการชมแสงเหนือในสหรัฐฯ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถาบันธรณีฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยอลาสกาอีกด้วย สำหรับใครที่เดินทางมาที่นี่ กูรูด้านการชมแสงเหนือแนะนำว่าควรไปพักที่ Chena Resort ซึ่งเป็นรีสอร์ทที่อยู่ใกล้กับสนามบินเมืองแฟร์แบงก์ และยังอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ด้วยการติดตั้งเครื่องปลุกอัตโนมัติที่จะส่งเสียงเตือน เมื่อมีปรากฏการณ์แสงเหนือเกิดขึ้นบนท้องฟ้า ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องออกไปรอด้านนอกห้องพัก ท่ามกลางอุณหภูมิที่ต่ำจนติดลบในช่วงกลางดึก

        จากอเมริกาเราขอพามาต่อกันที่ยุโรปอย่างประเทศฟินแลนด์สถานที่แห่งนี้ คือ หมู่บ้านมิวนิโอ และ หมู่บ้านคิลปิสจาร์วี ซึ่งถือเป็นสองหมู่บ้านชื่อดัง ที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปชมแสงเหนือเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ซึ่งแสงเหนือจะเกิดขึ้นบริเวณรอยต่อของสองหมู่บ้านนี้ โดยชาวบ้านได้จัดโปรแกรมทัวร์สุดพิเศษ ด้วยการใช้สุนัขลากเลื่อนวิ่งไปตามแนวป่าหิมะ ซึ่งเป็นพรมแดนของประเทศสวีเดน ฟินแลนด์ และนอร์เวย์ ก่อนที่จะพักค้างคืนสุดโรแมนติกในกระท่อมกลางป่า โปรแกรมทัวร์ดังกล่าวกินระยะเวลา 7 วัน มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 3,540 ดอลลาร์ หรือราว 112,000 บาท

        อีกหนึ่งประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการชมแสงเหนือไม่แพ้ที่ไหนในโลก ก็คือ ประเทศนอร์เวย์ เมืองที่เราจะพามาชมแสงเหนือนั้น มีชื่อว่าทรุมเซ่อที่ได้รับการเปรียบเทียบว่าเป็นปารีสแห่งเมืองเหนือ สำหรับไฮไลท์ของการมาเที่ยวชม แสงเหนือที่เมืองทรุมเซ่อนั้น ก็คือการล่องเรือแรงดันไอน้ำของบริษัทเดินเรือยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่างเฮอร์ติกรูเตนซึ่งจะล่องไปชมแสงเหนือตามฟยอร์ดแห่งต่างๆ

        และหากใครที่อยากมีความรู้เพิ่มเติมทางด้านดาราศาสตร์ก็สามารถล่องเรือเที่ยวพิเศษอย่าง Astronomy Voyage ที่ได้ออกเดินทางตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา และจะมีบริการไปจนถึงเดือนมีนาคม เรือลำนี้ มีบรรดานักดารา ศาสตร์จากทั่วโลก ร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อสังเกตปรากฏการณ์แสงเหนือและบันทึกข้อมูลเป็นประจำทุกปี ซึ่งการล้องเรือไปกับ Astronomy Voyage นั้นจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์ต่อคน หรือราว 60,000 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น