วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2555

พุทธมณฑลจังหวัดสระแก้วฉลอง ๒๖,๐๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ธรรม


     จังหวัดสระแก้วมีที่มาจากชื่อสระน้ำโบราณในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้ว ซึ่งมีอยู่ ๒ สระในสมัยกรุงธนบุรี ประมาณ พ.ศ.๒๓๒๔  พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งทรงเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เป็นแม่ทัพยกไปตีประเทศกัมพูชา (เขมร) ได้แวะพักกองทัพที่บริเวณ สระน้ำทั้งสองแห่งนี้ กองทัพได้อาศัยน้ำจากสระใช้สอย ได้ขนานนามสระทั้งสองว่า "สระแก้ว-สระขวัญ" และได้นำน้ำจากสระทั้งสองแห่งนี้ใช้ในการประกอบ พิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา โดยถือว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์ 

      นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าฯ สระแก้ว บอกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อขาว วัดนครธรรมบ้านสระลพ ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร สร้างเมื่อพ.ศ.๒๔๓๐ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เดิมชื่อวัดสระลพ ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น วัดนครธรรม เพื่อให้เป็นสิริมงคลนาม พระครูวิวัฒน์นครธรรม อดีตเจ้าอาวาส ได้บูรณปฏิสังขรณ์เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๖

      หลวงพ่อทอง วัดสระแก้ว (พระอารามหลวง) วัดสระแก้ว (พระอารามหลวง) ถนนสุวรรณศร ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว เดิมชาวบ้านเรียกว่าวัดหรอง วัดศาลานอก หรือวัดหนองกอไผ่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๓ ปลายรัชกาลที่ ๕ ต่อมา พ.ศ.๒๔๖๖ หลวงพ่อพรหมา จนฺทสโร ร่วมกับ ท่านขุนประกอบวิชาการ ปลัดกิ่งอำเภอสระแก้ว และชาวบ้าน ย้ายมาสร้างวัด ในที่แห่งนี้ใหม่ โดยมีพระครูรัตนสราธิคุณ หรือหลวงพ่อทอง เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง จนได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๑


      พระสยามเทวาธิราชจำลองจากพระสยามเทวาธิราชองค์จริงที่ประดิษฐานในพระบรม มหาราชวังที่กรุงเทพฯ เป็นประติมากรรมรูปคล้ายพระอินทร์ ทรงเครื่องอย่างนักรบ ขนาดสูง ๑.๒๙ เมตร ทรงช้างเอาราวัณสามเศียร ซึ่งเป็นพาหนะของพระอินทร์ อยู่ภายในบุษบกลักษณะเป็นซุ้มเปิดโล่งทั้งสี่ทิศ เรือนยอดทรงเจดีย์กลมประดับลายกลีบบัว เพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสระแก้ว และเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้คนที่อาศัยในแถบนี้

      อย่างไรก็ตาม ในวโรกาส "พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า" จ.สระแก้วได้จัดสร้าง "พระพุทธรูปปางสรงน้ำฝน" เพื่อเป็นพระพุทธรูปคู่เมืองสระแก้ว ประทับยืนบนดอกบัว มีขนาดความสูง ๑๖.๑๐๓๖ เมตร หรือ ๒,๕๓๖ กระเบียด เท่ากับจำนวน ๒๕๓๖ ปี ของการจัดตั้งจังหวัดสระแก้ว เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจ และเป็นนิมิตหมายแห่งความชุ่มชื่นร่มเย็น โดยจะประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ อุทยาพุทธมณฑลสระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว บนพื้นที่ ๒๖๑ ไร่

      การจัดสร้างอุทยาพุทธมณฑลสระแก้ว มีสมเด็จพุฒาจารย์ (เกียว อุปเสณ) เป็นประธานอุปถัมภ์ฝ่ายสงฆ์ โดยได้เมตตาถวายพระนามพระพุทธรูปคู่เมืองสระแก้วว่า "พระพุทธมงคลวิมลบูรพาโสภิต" โดยมี พระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร) เจ้าคณะภาค ๑๒ เป็นรองประธานอุปถัมภ์ฝ่ายสงฆ์ นายเสนาะ เทียนทอง เป็นประธานอุปถัมภ์ฝ่ายฆราวาส นายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธานอุปถัมภ์ฝ่ายฆราวาส

      เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ นายเสนาะ พร้อมด้วยนางอุไรวรรณ เทียนทอง เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์พระพุทธรูปคู่เมืองสระแก้ว โดยมีข้าราชการ พ่อค้าประชาชน นักเรียนนักศึกษา และคณะสงฆ์นำโดยพระราชธรรมภาณี เจ้าคณะจังหวัดสระแก้ว เจ้าคณะอำเภอทุกอำเภอ คณะสงฆ์ จำนวน ๕๐๙ รูป รวมทั้งสิ้นประมาณ ๗,๐๐๐ คน ทั้งนี้ คาดหวังว่าจะเป็นแห่งเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง




      อย่างไรก็ตามเพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จ คณะกรรมการจึงได้จัดสร้าง พระเครื่องและพระบูชา "พระพุทธมงคลวิมลบูรพาโสภิต พระพุทธรูปคู่เมืองสระแก้ว" ประกอบยด้วย พระบูชาสูง ๑๖ นิ้ว ๙ นิ้ว เหรียญพิมพ์ ๒๕ พุทธศตวรรษ เหรียญเสมา พระเครื่องเนื้อผง และพระรูปหล่อลอยองค์ เพื่อนำรายได้สมทบทุนสร้าง โดยได้ประกอบพิธีมหาพุทธาพิเษก ณ พระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา พุทธศาสนิกชนร่วมบุฐได้ที่ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว โทร.๐-๓๗๔๒-๕๐๐๑-๒ และ ๐๘-๑๑๗๒-๒๕๔๘

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น