วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

7 เรื่องหน้าแตกติดอันดับในที่ทำงาน



สารภาพมาซะเถอะว่า คุณก็เคยทำเรื่องหน้าแตกในที่ทำงานเหมือนกัน ไม่เป็นไรหรอกใครๆก็เคยทำเรื่องแบบนี้กันบ้าง บางเรื่องก็เล็กน้อยพอขำออก แต่บางเรื่องนี่สิขำไม่ออกแถมยังเป็นที่จดจำไปอีกนาน

 คุณเคยทำเรื่องเหล่านี้บ้างไหม ถ้าใช่ พอจะมีทางแก้ไขอยู่บ้างล่ะน่า

 1. มาประชุมนัดสำคัญสาย
วันทำงานปกติไม่ค่อยสายพอประชุมสำคัญกับลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทดันเพิ่งโผล่มาตอนที่เขาประชุมกันไปแล้ว เหมือนโดนโชคชะตากลั่นแกล้ง ตั้งแต่เผลอปิดนาฬิกาปลุก รถติดมหาวินาศ มาถึงแล้วยังวนหาที่จอดรถไม่ได้ แถมยังเจอสายตาทุกคู่ในห้องประชุมปล่อยแสงเลเซอร์จนตัวเราแทบพรุน
    กันไว้ก่อน ควรเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร เครื่องแต่งกาย จะได้ไม่ต้องลนลานหาในเวลาเร่งรีบ ตั้งนาฬิกาปลุกให้เร็วขึ้นหรือตั้งปลุกอีกเครื่องกันเหนียวดีกว่า เตรียมอาหารเช้าแบบทานง่ายๆไว้ จะได้มีเรี่ยวแรงระหว่างประชุม
 2. เมาท์แล้วถูกจับได้
ระหว่างเมาท์เจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานอย่างเมามัน เขามายืนอยู่ข้างหลังเมื่อไหร่ไม่รู้ ยังไม่ทันวางสายก็เมาท์คนที่โทรมาแล้วเขาได้ยินเข้า หรือแอบตีหน้ายักษ์ใส่คนที่เข้ามาติดต่อเขาเหลือบมาเห็นพอดีก็ เพล้ง เพล้ง เพล้ง
  กันไว้ก่อน ระหว่างที่ยังไม่วางสายหรือเอามือปิดปากกระบอกโทรศัพท์ คนปลายสายเขาอาจได้ยิน ถ้าอยากเมาท์เจ้านาย หรือเพื่อนร่วมงานใจจะขาด เก็บไปเมาท์กับเพื่อนนอกสำนักงานดีมั้ย เพือป้องกันความผิดพลาด เมาท์ทางโทรศัพท์ก็ใช่ว่าจะไม่ฟลุ้กมีคนได้ยิน บอกตัวเองให้อดทนไว้ดีกว่าแล้วทุกอย่างจะดีเอง เอาเป็นว่าไม่เป็นสาวขี้เมาท์ได้จะดีที่สุด

 3. เลือกสุภาพกับบางคน
ใครชอบเผลอหลงติดในภาพพจน์ของคนอื่น แต่หลงไม่หลงเปล่า ยังหวานจ๋อยเย็นเจี๊ยบกับพวกมาดหรูดูดีระดับสูงๆ หรือเจ้าใหญ่นายโตที่สามารถให้คุณให้โทษได้เท่านั้น กับคนธรรมดาหรือบรรดาลิ่วล้อ หางเสียงหายลงคอไปหมด เหลือแต่เสียงฟ่อดๆแฟ่ดๆ
     กันไว้ก่อน สุภาพกับทุกคนเสมอหน้ากันไว้ดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องหน้าแตกตอนคนที่เคยพบเห็นแต่ภาพแสนหวานมาเห็นภาพนางมารของเราเข้า หรือปะเหมาะเคราะห์ร้ายคนธรรมดาแต่งตัวโทรมๆ ที่เราตวาดไปอาจจะแจ็กพอตกลายเป็นญาติมิตรของบรรดาบิ๊กๆ มารยาทดียิ่งทำยิ่งเพิ่มความดีในตัวเราจิตใจก็แจ่มใส อย่าเลือกปฎิบัติเลยนะคะ

 4. เถียงหัวชนฝา
เป็นสาวมั่น ใครจะว่าอะไรถูกอยู่คนเดียว ทั้งรู้จริงรู้ไม่จริงขอเถียงไว้ก่อนด้วยความมั่นใจสูงสุด แล้วการไม่ยอมแพ้ใครจะกลับมากัดกร่อนความมั่นใจของเรา เพราะใครๆ ก็ยิ่งรู้สึกเป็นสิ่งท้าทายในการทำให้เราเสียหน้า เพื่อจะได้ให้เรากลับมาสู่ระดับคนปกติซะทีด้วยความรำคาญ
    กันไว้ก่อน เตือนตัวเองหน่อยว่า การเป็นผู้รู้ไม่ต้องแสดงว่าฉันถูกอยู่ตลอดเวลาก็ได้ ทำตัวสบายๆอยู่เฉยบ้างแล้วความเชื่อถือจะค่อยๆมาเอง หรือถ้าจะถกเถียงกับใครก็ควรเสาะหาความรู้ให้แน่นก่อนจะเถียงผิดๆไปให้อายเขาเปล่าๆ

 5. ไม่เคยรู้ทันโลก
ใครเขาคุยเรื่องอะไรกัน เราฟังได้ทุกเรื่อง แต่ไม่รู้อะไรเลย สงสัยซักถามหรือแสดงความเห็นขึ้นมาก็กลายเป็นคนละเรื่องคนละราวกับชาวบ้านเขา เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือนานๆที ก็คงพอรับได้ หน้าแตกบ่อยๆ เห็นจะไม่ไหวเสียบุคลิกและความน่าเชื่อถือหมด
     กันไว้ก่อน อย่าก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว ติดตามโลกบ้าง อ่านหนังสือพิมพ์ ฟังวิทยุ ดูข่าวหรือหาความรู้รอบตัวจากนิตยสารต่างๆ คุยกับคนอื่น เพื่อเสริมความรู้ที่โยงมาถึงงานได้

 6. เมาเละในงานเลี้ยง
พอมีงานเลี้ยงสังสรรค์ประจำปีของบริษัททีไร เรามักจะค้นพบดาวรุ่งขาเมาเละคนใหม่ งานเลี้ยงทีไรเหมือนงานปล่อยผีสนุกสุดเหวี่ยง มาดดีไม่หลงเหลืออีกเลย
     กันไว้ก่อน เครียดมาทั้งปีจะสนุกให้มันสะใจขนาดไหนไม่ว่ากันอยู่แล้วล่ะค่ะ หากคุณเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในที่ทำงาน ไม่ดื่มจะดีกว่าไหม นั่งทานแต่กับแกล้ม ก็ช่วยสร้างมิตรภาพกับคนร่วมโต๊ะได้เหมือนกัน

 7. ทอดสะพานผิดที่
มีหนุ่มหล่อกระชากใจเฟรชชี่เข้าใหม่ เห็นปุ๊บรีบล็อกเป้าหมาย แล้วแอบมุบมิบ ทอดสะพานไปหลายรอบ รอจนคอยาวว่าเมื่อไหร่พ่อเจ้าประคุณถึงจะแลนดิ้งซะที แต่การณ์กลับกลายต้องกินแห้ว เพราะเขาเป็นชายชอบชาย หรือมีเจ้าของซะแล้ว ฯลฯ
     กันไว้ก่อน คุณควรตั้งสำนักข่าวกรองเช็กข่าวให้ดีก่อน อย่าผลีผลามลงมือส่งสายตา สืบให้แน่ใจว่าชายผู้เป็นเป้าหมายนั้นเหมาะกับการทอดสะพานจริงหรือเปล่า จะได้ไม่เป็นเหยื่อข่าวเมาท์ประจำออฟฟิศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น